hawker

hawker

วันศุกร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2561

วันที่ 4 เปลี่ยนที่พัก เที่ยววัง



          วันนี้น่าจะเป็นวันที่ได้ทำตามแผนที่ตั้งใจไว้มากที่สุดเพราะแทบไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจากแผนมากมายนัก เริ่มจากช่วงเช้าซึ่งจริง ๆ เรียกว่าสายแล้วดีกว่าเราต้องเปลี่ยนที่พักเพราะอยากพักแบบสไตล์เกาหลีแท้ ๆ ก็เลยจองโฮมสเตย์แบบ Hanokstay ที่มีที่นอนแบบ อนดน (จริง ๆ แล้วแค่เป็นห้องที่ทำความร้อนด้วยไอน้ำ) เราใช้วิธีเรียกแท็กซี่โดยขอให้เจ้าหน้าที่ของทางโรงแรมเรียกให้ ตอนแรกก็งงว่าทำไมไม่โทรเรียกให้ซักที รออยู่ซักพักเลยถามเค้าไปว่าเป็นไงบ้าง พี่แกบอกกำลังมาแหละไม่น่าเกิน 5 นาที คือดีงามมากเค้าใช้แอพฯครับผม และที่เงียบ ๆ ไปคือมันออนไลน์ เค้ากำลังดูว่ารถมาถึงไหนแล้ว ไฮเทคโคตร ขนาดสื่อสารกันไม่ค่อยเข้าใจนะ อาศัยเปิดสมุดชี้รูปให้ดูอะไรประมาณนั้น เพราะแท็กซี่ที่นี้มีหลายแบบ ที่ต้องระวังที่สุดคือแท็กซี่สีดำเพราะราคาจะแพงกว่ามาก



 อันนี้ภายในรถแท็กซี่ คนขับเนี้ยรุ่นคุณลุงเลยแต่เทคโนโลยีเต็มที่ 3-4 จอกันไป ทั้งแอพฯ ทั้ง GPS



ระหว่างทางเห็นพี่มอเตอร์ไซด์ โทรศัพท์ก็ไม่น้อยหน้ากันเหมือนกัน


ที่พักหาไม่ยาก แอบงง ๆ นิดหน่อยเพราะแอบอยู่ในซอยแต่ก็ไม่ลึกนัก ชื่อ Hanokstay Hanok 24 Guesthouse Gyeongbokgung Chill Bo Am 


กดกระดิ่งพูดคุยผ่านอินเตอร์คอม ว่ามาเช็คอินเค้าก็จะมาเปิดประตูให้ ที่นี่ดูปลอดภัยดีใช้รหัสในการเข้าออก


ลงทะเบียนที่รี่แหละ ห้องเล็ก ๆ น่ารัก Elle (ชื่อเจ้าหน้าที่แต่คิดว่าเป็นเจ้าของมากกว่า) น่ารัก บริการดี คอยแนะนำอธิบายสิ่งต่าง ๆ ให้เข้าใจถึงระเบียบการใช้ห้องพัก



ไปห้องพักกัน



อันนี้อีกหลังไม่ใช่ที่เราพัก


อันนี้คือห้องที่เราพัก แต่จริง ๆ แล้วเป็นหลังแล้วแบ่งเป็นห้องนอนได้ประมาณ 5 - 6 ห้อง อย่างหลังที่เราอยู่ มี 4 ห้องเป็นห้องสำหรับ 1 คน 2 ห้อง 2 คน 2 ห้อง รวมแล้วนอนได้ 6 คน ถ้ามาเป็นแก็งค์ครบจำนวนบ้านก็เป็นของเราเลยแหละ 



พื้นที่นี่อุ่นดีมากเพราะเป็นระบบทำความร้อนแบบไอน้ำ ที่เค้าเรียกกันว่า อนดน แต่ลงลึกไม่รู้เพราะคุยกับเค้าไม่รู้เรื่อง ที่นี้มีน้ำดื่มให้ 2 ขวด ซักผ้าได้ อุ่นอาหารได้ แต่ห้ามทำอาหารแบบจริงจัง มีถ้วย ช้อน ชาม ให้ครบ



นี้เป็นห้องโถงรวม ผนังโล่ง ๆ ที่เห็นเป็นที่ดูทีวีแบบโปรเจคเตอร์ ตอนเราไปพัก มีเพื่อนร่วมบ้าน 2 คนเป็นผู้หญิงทั้งคู่ คนนึงญี่ปุ่น อีกคนไม่รู้ชาติอะไรพวกฝรั่งไม่ได้ถาม

 

ห้องน้ำรวม มีสบู่ แชมพู ครบแต่แปลกตรง สบู่แชมพูที่เกาหลีใช้ดีกว่าที่โรงแรมบ้านเราเยอะเลย ด้านขวาเป็นทางเดินเข้าห้องพักแต่ละห้อง

     


ซ้ายมือเป็นห้องพักแบบ 1 คน เราพักแบบ 2 คนด้านขวา เรียบง่าย แต่มีแอร์ให้ด้วยกรณีรู้สึกว่าพื้นมันอุ่นเกิน บอกก่อนเลยว่าตอนนอนจริงมีแอบเหงื่อซึม ทั้ง ๆ ที่อุณหภูมิตืดลบ


เก็บของเสร็จได้เวลาอาหารเที่ยงพอดีตามแผนเราก็ ไก่ตุ๋นโสมร้านดัง 토속촌 ซึ่งพึ่งรู้ว่าห่างจากที่พักเราซัก 100 เมตรเองมั้ง ขนาดยังไม่เที่ยงคิวยาวมากแต่ก็รอไม่นาน



ในร้านจะมีแบบนั่งพื้น หรือนั่งบนเก้าอี้ก็ได้ เหมือนร้านสำหรับนักท่องเที่ยว


ไป 2 คน สั่งไก่ดำตุ๋นโสมมา 1 ไก่ย่างหรืออบไม่รู้ 1



นุ่มดีเนื้อนุ่มจนแอบเละน้อย ๆ



หน้าตาไก่ตุ๋นโสม มีข้าวเหนียวยัดอยู่ในตัวไก้ด้วย รสชาติคงแล้วแต่ชอบถ้ามีโอกาศหน้าไม่แวะแน่นอน



หลังจากที่อิ่มแต่ไม่อร่อยแผนของเราคือไปเช่าชุดฮันบกเพื่อเดินถ่ายรูปเล่นในพระราชวังเคียงบกกุง Gyeongbokgung Palace เส้นทางนี้ใช้วิธีการเดินเพราะไม่ได้ไกลจากที่เรากินเท่าไหร่ แถมอากาศก็เย็น ๆ น่าจะ -4 ประมาณนั้น




ทางเข้าหลักของพระราชวังฯ ที่มีโชว์ทหารเปลี่ยนเวรให้ดูด้วย แต่เราไม่ดูเพราะหนาวและมีภารกิจต้องทำ คือไปเช่าชุดฮันบก ร้านเช่าอยู่ข้าง ๆ วังเลย ใช้คูปองที่ได้มาวันแรกนั้นแหละฟรี 2 ชั่วโมง



ข้อดีของการใส่ชุดฮันบกอีกอย่างคือเข้าวังฟรี ข้อเสียคืออากาศมันหนาวเกินไป ยิ่งมีลมพ้ดมาเมื่อไหร่เนี้ยอย่าให้พูด เดินแป๊บเดียวเองหูหายไปแหละ คราวนี้มีหน้าชาแถม แทบไม่อยากอ้าปากพูด



แต่ไหน ๆมาแล้วก็ต้องเดินดูให้ได้เท่าที่ทำได้ รูปนี้คือพระราชวังกลางน้ำ ดูที่น้ำดิกลายเป็นน้ำแข็งแล้วเกือบทั้งสระ คงไม่ต้องบอกว่าหนาวแค่ไหน



แนะนำเลยว่าถ้าอยากเดินเล่นถ่ายรูปเล่นแบบสวย ๆ อย่ามาตอนอากาศติดลบมันไม่สนุกเลย



เห็นโฟสกันสวย ๆ แบบนี้ถามด้วยว่าหนาวมากไม๊?



แดดสวยแต่แรง แถมโล่ง ลมแรง



เราเดินกันแบบรักษาเวลาดีมาก จริง ๆ เพราะหนาวเกินนั้นแหละถ้าอากาศอุ่นกว่านี้พนันได้เลยว่า แค่ 2 ชั่วโมงไม่พอแน่นอน 


          แหละนี้คือเป้าหมายต่อไปของเรา หอคอยโซลทาวเวอร์ N Seoul Tower แน่นอนว่ายังคงใช้คูปองฟรีที่ใช้สำหรับขึ้นไปชั้นบนของหอคอย ระหว่างเดินทางไปเราอยากลองขึ้นรถเมล์ดู แต่ดันขึ้นผิดฝั่ง สุดท้ายเลยต้องอาศัยรถแท็กซี่ อันนี้แพงหน่อยเกือบ 6,000 วอน ให้ไปส่งที่กระเช้าเพราะเราไม่อยากเดินขึ้นเขาอายุเยอะขอเที่ยวสบายหน่อย


ระหว่างทางไป หอคอยโซลทาวเวอร์ ภายในสถานีรถไฟ Gyeongbokgung มีภาพฝาผนังปูนปั้นให้ดูเพลิน ๆ

 

ใกล้ ๆ ทางออกมีน้ำรั่วที่เพดานดูเอาแล้วกันว่าหนาวแค่ไหน


กลับมาที่ หอคอยโซลทาวเวอร์ อีกครั้งที่ชั้นบนสุดก็มีของขายกันตามระเบียบ


มีถ่ายรูปเป็นที่ระลึกด้วย


สำหรับคนที่ไม่รู้ ที่นี้เป็นที่ ๆ เค้ามาคล้องกุญแจกัน


วิวบางมุมจากบนยอด หอคอยโซลทาวเวอร์ 


ตอนลงจากหอคอยกำลังคิดว่าจะหารถลงจากเขายังไงบังเอิญมาเจอลิฟท์ตรงนี้พอดี



มันคือลิฟท์ที่ใช้ขึ้นไปที่เคเบิ้ลคาร์สำหรับไปหอคอย ถ้ารู้มาก่อนใช้ทางนี้สะดวก และประหยัดแน่นอน


ห่างจากถนนเมนไม่ไกลมาก ที่เห็นตึกเยอะ ๆ นั้นน่าจะย่านเมียงดงนี่แหละ


เดินจนเพลินลืมกินข้าว เลยคิดเอาว่าแถวที่พักในวันแรก ๆ มีร้านอาหารอยู่เยอะไปลองกันดูซะหน่อยดีกว่า เป็นร้านแบบไม่ได้มีใครแนะนำไว้ มีแต่คนเกาหลี


และเช่นเคยหมูย่างอีกมื้อ



เครื่องเคียงคงเป็นจุดเด่นของที่นี่


กินเสร็จก็นั่งรถไฟกลับที่พักเพราะวันนี้เราเปลี่ยนที่นอนแล้ว ที่ใหม่ค่อนข้างห่างจากสถานีรถไฟประมาณซักกิโลได้ แต่ตลอกเส้นทางเดินกลับก็คึกคักดีไม่รู้เรียกว่าย่านอะไร หาจาก Google ชื่อซอย Jahanum-or 1-gil


ทั้งซอยมีร้านอาหารเยอะมาก แต่เพราะพึ่งอิ่มกันมาเลยไม่ไหวติดไว้เป็นพรุ้งนี้ดีกว่าค่อยมาชิมกัน


ก่อนเข้าที่พักแวะร้านสะดวกซื้อชื่อ G25 เหมือนเซเว่นซื้ออะไรนิดหน่อยก่อนเข้าที่พัก ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กันแถมร้านนี้ใช้สิทธคืนภาษีได้เลยแค่ต้องพกพาสปอร์ตมาด้วย


และนี่คือของเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ซื้อมา ลองใช้เตาของที่พักซักหน่อยก่อนนอน


 ย้อนไปดูวันก่อน



วันที่ 3 หิมะตก ต้องไปกินปู

http://hawkof9.blogspot.com/2018/02/3.html 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น