hawker

hawker

วันพุธที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2558

ชุมชนริมน้ำจันทบูร


          ด้วยอารมณ์แบบบ้า ๆ บอ ๆ ไม่เคยเตรียมตัวเตรียมใจทั้งนั้น อยากไปก็ไปมันซะเลย เป้าหมายครั้งนี้คือ ชุมชนริมน้ำจันทบูร อาจเพราะเคยได้ดู ได้ยิน ได้ฟัง มาจากหลาย ๆ สื่อ วันนี้มาให้เห็นกับตากันเลยดีกว่า ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ กว่าจะถึงได้ก็ผ่านไปแล้วเกือบ 4 ชั่วโมงฝนตกเกือบตลอดทางเชียว


มุมมองจากระเบียงที่พัก


โฉมหน้าที่พัก ท่ามาจัน รายละเอียดลองแวะไไปดูอีกรีวิวนะจ๊ะ http://hawkof9.blogspot.com/2015/09/blog-post.html



ป้ายแนะนำส่วนต่าง ๆ ที่น่าสนใจของชุมชน แต่เราไปถึงเย็นไปหน่อยที่น่าสนใจคงต้องรอพรุ้งนี้



ถนนหลักของชุมชน


ไม่ต้องกลัวว่ามาผิดที่ ป้ายขนาดนี้ยืนยันได้


พยายามจะถ่ายให้อาร์ตแต่ได้แค่นี้


จริง ๆ เกือบได้พักที่นี้แล้วเชียว



ที่เคยดูจากทีวี ก็น่าพักนะ




ร้านนี้คนเยอะนะ ยิ่งค่ำ ๆ นี่ไม่มีที่นั่งเลยเชียว


หน้าร้านเค้า


จะว่าไปแล้วที่นี้ก็มีร้านน่ารัก น่านั่งเล่น อยู่หลายร้านเลย แต่ไม่ได้แวะซักร้าน เฮ้อ...แย่จัง


บ้านเรียนรู้ชุมชน ปิดซะแล้วแถมวันรุ่งขึ้นก็ลืมแวะ ใครไปก็ฝากแวะเยี่ยมชมแทนหล่ะกัน


ร้านนี่เจ้าของน่ารักนะ รับแขกดีมากกกก ชื่อร้านอย่างเท่



ชิ้อร้านเค้ามาจากรหัสไปรษณีย์


จัดไป 1 ใบ


เตรียมไปโบสถ์กัน



อะ อะ อย่าลืมชิมกันนะ แต่ไม่อยากเรียกว่า ไอศครีม อยากเรียกว่า ไอติม มากกว่า


ถ้าไม่เห็นใครแต่อยากทาน สั่นกระดิ่งเรียกได้นะ




ร้านนี้มีเรื่องเล่าด้วยนะ



อา....เห็นแล้ว โบสถ์วัดแม่พระปฏิสนธินิรมล ไม่มานี่เหมือนมาไม่ถึง


ฟ้าไม่เป็นใจเอาซะเลย




ตลาดโรงหนัง  เห็นใบปิดติดอยู่เยอะเลยลองแวะมาดู ไม่ไกลจากชุมชนเท่าไหร่ แต่อ้วน ๆ เดินมีเหงื่อซึม







รวม ๆ แล้วเป็นตลาดสำหรับคนรุ่นใหม่ แนว ๆ ชิว ๆ มีร้านให้นั่งกินจุ๊บจิ๊บ


กลับจากตลาดโรงหนังยังไม่ค่ำมากแต่ที่ชุมชนนี่เงียบเชียว


ที่พักของเราชั้นล่างเป็นร้านอาหาร ริมน้ำที่นี่มีร้านให้นั่งเล่นเยอะเชียวลองมาดูเองแล้วกัน ชอบแบบไหนก็เลือกแบบนั้น

          หลังจากพักผ่อนอย่างสนิทมากเพราะเหนื่อยกับการพยามจะ Slow Life ตามที่เค้าฮิต ๆ กันด้วยการเดินล้วน ๆ วันนี้เปลี่ยนแผนขอใช้จักรยานแล้วกัน Slow Life ไม่ไหวหล่ะ เพราะตั้งใจจะใส่บาตรซะหน่อยพึ่งมารู้เอาว่าวั้นนั้น (วันที่ไป) เป็นวันพระพอดี พระไม่ออกเดินรับบาตร แป๊ว....อดซิเราตื่นฟรีซิวันนี้ งั้นก็อย่าให้เสียเที่ยวปั่นจักรยานเล่นยามเช้าแล้วกัน และแน่นอนว่าถ้าไม่ปั่นเล่นคงไม่มีโอกาศได้เห็นภายในโบสถ์แน่ ๆ ส่วนตัวไม่เคยเข้าโบสถ์มาก่อน ทำตัวไม่ถูกเหมือนกันแต่ก็พยามสุภาพสุด ๆ ไว้ก่อน


แรกเห็นบอกเลยว่าอลังมั๊กมาก


ที่เห็นเชือกห้อยลงมาเป็นที่ดึงระฆัง...อืม...เค้าเรียกแบบนี้หรือเปล่าหว่า?


สวยมาก นี่ถ้าเอาขาตั้งกล้องมาด้วยจะแหล่มเลย







ไม่มีคำบรรยายนะ เพราะไม่มีความรู้จริง ๆ เอาว่าสวยมาก น่าจะเพราะเป็นวันอาทิตย์ โบสถ์เลยเปิด


ที่ตอนนี้อะฟ้าสวยเชียว ไม่เหมือนเมื่อวาน



          เนื่องเพราะไม่ได้เดินทางด้วยสองเท้าเหมือนเมื่อวาน ก็เลยปั่นเที่ยวเล่นรอบโบสถ์ ก็ให้บังเอิญเจอตลาดใหม่ที่จากได้สอบถามดูพึ่งเปิดได้ไม่นาน 



ถ้าไม่ติดว่าจะไปกินก๋วยเตี๋ยวกั๊งนะ..หึ หึ


เหมือนเป็นตลาดสด แต่แอบมีของทำสำเร็จแซม ๆ อยู่เยอะเชียว









มุมนี้ปั่นอ้อมมาอีกทาง ตอนนี้แหละที่เรียกว่าเหนื่อย


ถ่ายจากบนสะพาน พอลงสะพานเลี้ยวซ้ายก็ชุมชนแล้ว ใกล้ ๆ เอง (แต่แอบเหนื่อย)


มาแล้ว ๆ เตี๋ยวกั้งเจ้อี๊ด


ปูตัวใหญ่ ๆ


รีบมาแล้วนะ ไหงคนตรึมเลย จะมีที่นั่งไม๊เนี้ย?


ประเดิมด้วยข้าวหน้าทะเล



ต่อด้วยเตี๋ยวกั๊ง


ประเด็นที่ทำให้ร้านโด่งดังขนาดนี้คงไม่ใช่เพราะรสชาดอย่างเดียวแน่นอน ต้องเป็นราคาด้วยแน่ ๆ เพราะที่เห็นเนี้ย จานละ 80 บาทเอง ดูมาหลาย ๆ ที่นี่ราคาเกินร้อยทั้งนั้น


ข้ามมาสั่งเครื่องดื่มร้านตรงข้าม


เจ้าของบอกสั่งก๋วยเตี๋ยวมากินในร้านได้นะ


ตืด ๆ กันก็อีกหนึ่งร้านดังของที่นี่



ป้าไต๊ แข็งแรงมาก


          สบายท้องแล้วก็คงต้องล่ำลาชุมชนน่ารัก ๆ นี่แล้วหล่ะ เหมือนเช่นทุก ๆ ครั้ง เวลาไปไหนแบบไม่รู้จักเตรียมตัวมักจะเสียดายที่ทำไมเวลามันน้อยจังยังไม่ทันไรก็ต้องกลับแล้ว สัญญากับตัวเองนับครั้งไม่ถ้วนว่าจะเปลี่ยนวิธีคิด แต่ก็ยังทำไม่ได้ซะที เฮ้อ