hawker

hawker

วันอังคารที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

วันที่ 3 หิมะตก ต้องไปกินปู



          เอาจริง ๆ เลยคือเกิดมายังไม่เคยเห็นหิมะมาก่อน เมื่อคืนตอนดูพยากรณ์อากาศเห็นบอกว่าหิมะจะตกตอนประมาณตี 3 หยุดตอน 6 โมงเช้าก็กะว่าจะตื่นมาดูอยู่แหละแต่คงตื่นไม่ไหว ไม่นึกว่ารู้สึกตัวตื่นมาตอน 8 โมงเช้ายังมีตกมาแบบ ตก ๆ หยุด ๆ ให้ได้บรรยากาศ ก็เลยได้สัมผัสหิมะได้แบบหัวชื้นกันเลย ป่ะ ๆ ดูกัน


อันนี้แบบตื่นมาปุ๊บเปิดม่านมาดูเห็นกันจะ ๆ ตา


แหงะหน้ามองไปที่ถนนซะหน่อย ฟัน เฟิน ไม่ต้องแปรงล้างหน้านิดหน่อย รีบลงไปเลยกลัวไม่ทัน


อันนี้คือหน้าโรงแรมที่พักเลย


ที่เห็นบันไดด้านขวาเป็นโบสถ์คริส ก็เลยมีต้นไม้เยอะหน่อย


อารมณ์ปนะมาณบิงซูนุ่ม ๆ พอตีปุ๊บกระจายปั๊บ


แปลไม่ออก อ่านไม่ได้ ที่รู้ว่าเป็นโบสถ์เพราะเช้านี้มีคยมาเยอะเลย



เผื่อให้ได้บรรยากาศก็เลยเดินเล่นตากหิมะออกมาที่ถนนใหญ่กันหน่อย




คันนี้น่าจะจอดมาทั้งคืน จะว่าสวยก็สวยนะ แต่ถ้าเป็นเราคงเซ็งน่าดูมานั่งกวาดหิมะเนี้ย

          หายตื่นเต้นแล้วก็มาต่อที่ทริปเรากันเลย หลังจากคิดกันนิดหน่อยดูแล้วเฉพาะที่โซลเองก็มีที่เที่ยวเยอะอยู่ และเราตั้งใจไว้ว่ายังไงต้องลองไปเดินหาอะไรกินที่ตลาดปลาเพราะรู้มาว่าราคาไม่แพง เช่นเคยคือออกเกือบเที่ยงเพื่อที่จะได้หาอะไรกินเป็นอาหารเที่ยงไปเลย แต่ไหน ๆ ก็ตื่นมาแล้วหาอะไรรองท้องไปก่อนเพราะที่พักของเรามี ชา กาแฟ ขนมปัง ไข่ ผลไม้ เป็นแบบคอนติเนชั่น (เค้าว่างั้น)


ที่เห็นตู้ซ้ายมือเหมือนตู้ฆ่าเชื้อไว้ใส่จาน ชาม ถ้วย


ฮะ ฮ่า มาเป็นคนแรกเลย


ที่ ๆ เราไปคือ ตลาดปลา นอร์ยางจิน (noryangjin fish market) ซึ่งแลดูเหมือนต้องออกไปนอกเมืองโซล ไป แถว ๆ ชายขอบเมืองอินชอน


การเดินทางก็จะงง ๆ นิดหน่อยเพราะปรกตินั่งแต่ใต้ดิน อันนี้นั่งใต้ดินอยู่ดี ๆ ก็โผล่มาบนดินจากปรกติที่มีแค่ 2 รางมาเจอ 4 รางเล่นเอา เป๋ไปนิดหน่อย


หิมะตกทั่วฟ้า แต่กำลังละลาย อุณหภูมิตอนนี้ประมาณ -4


ลงรถไฟออกมาที่ถนนใหญ่เพียงเพื่อมุดลอดทางรถไฟไปอีกฟากนึงแค่นั้นเอง


ระหว่างทางก็มีของสดขาย รู้จักบ้าง ไม่รู้จักบ้าง


ตัวตลาดที่เห็นได้ชัดเป็นตัวอาคารที่ชั้นล่างขายของสด แล้วนำไปทำทานได้ที่ชั้น 2


ละลานตามาก อยากกินทุกอย่าง


คุยกับเค้าไม่รู้เรื่อง น่าจะเป็นหอยเชลล์ ตัวใหญ่มากกกกกกกก


          แต่พอดีเราเห็นเหมือนมีคนเยอะ ๆ เลยลองเดินไปดูกันก่อน เพราะยังตัดสินใจไม่ถูกว่าจะจัดเมนูอะไร ทำให้เจออีกตลาดเป็นแบบที่เห็นนี่แหละ เลยมโนเอาเองว่าตรงนี้น่าจะถูกกว่า แล้วพอเทียบกับค่าเงิน ปริมาณ ถูกกว่าบ้านเราเยอะเลยอย่างหอยนางรมสด ตัวใหญ่ ๆ 9 ตัว  คิดเป็นเงินไทย 150 บาท ปลาแซลม่อนดิบแล่แล้วจานนึงประมาณ 300 ถ้าเป็นบ้านเราเอาแบบถูก ๆ ปริมาณเท่ากันต้องมีพันกว่าบาท ตัดสินใจเลยว่าวันนี้เราจะกินปูทาราบะ 1 ตัวหนัก 2 กิโลฯนิด ๆ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 3,000 กว่าบาทเทียบกับที่ ชินเซ็นมาร์เก็ต แถวเพชรบุรีน้ำหนักเท่ากัน ตัวละเกือบ 8,000 บาท จัดเลยซิครับปรกติได้กินแค่ขามันเต็มที่ก็ขาเดียว กินเยอะไม่ไหวเปลืองแต่คราวนี้จัดกันทั้งตัว มาแค่ 2 คนถามดีกว่าว่าจะกินหมดไม๊? แนะนำเลยว่าถ้ามาตลาดปลาที่นี่น่าจะชวนเพื่อนมาซักไม่ต่ำกว่า 4 คนจะได้กินอะไรได้เยอะ ๆ อยากกินหลายอย่างมากแต่เกรงว่าจะยัดไม่ลงเสียดายยยยยยยยย


และเช่นเคยตามมาตราฐานเกาหลี นั่งปุ๊บเครื่องเคียงมาปั๊บ แต่เที่ยวนี้มีแค่ 2 อย่างเอง เพราะเมนูเราเป็นแบบนิ่ง ผักแกล้มอะไรก็เลยไม่มี


ทาด้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา


เนื้อเป็นก้อน ๆ กันเลย


น่ากินป่ะ


แยกชิ้นส่วนกันก่อน จะได้จัดการกันง่าย ๆ หน่อย ดูขนาดเทียบกับกรรไกรดิ


เศษเนื้อที่หลุด ๆ รวมกับมันปูตรงกระดองเราให้เค้าไปผัดข้าวมาให้กลัวไม่อิ่มกลายเป็นไอ้ตัวนี้นี่แหละทำเอาจุก


ที่เห็นข้าง ๆ เป็นเนื้อล้วน ๆ ไม่ใช่เปลือนะแจ๊ะ



อันนี้เทียบกับช้อน

          อย่างที่เห็นคือกินกันแค่เมนูเดียวนี่แหละเอาจริง ๆ เลยนะอิ่มยันเช้า มั่นใจว่าวันนี้คงกินอะไรไม่ลงแน่ ๆ แต่กว่าจะจัดการเจ้าปูเสร็จก้ปาไปเกือบ 4 โมงเย็นแล้วบอกเลยว่าอากาศเปลี่ยนจากประมาณ -4 เมื่อเช้า ตอนเราิิกมานั่งรถไฟกลับอุณหภูมิลดลงอีกเป็นซัก -8 ตอนนี้ร่ายกายชักไม่ไหวเพราะเสื้อผ้าที่เตรียมมาไม่ได้กะว่าจะมาเจอติดลบแบบนี้ แถมทั้งชีวิตก็พึ่งเคยเจออากาศติดลบแบบนี้ครั้งแรก เลยวางแผนแบบกระทันหันว่าคงต้องหาเสื้อหนาวใหม่เพื่อจะได้อุ่นขึ้นกว่านี้เพราะตอนนี้ หู กับ จมูก ไม่รู้หายไปไหนแล้วแถมมือนี่แทบไม่อยากเอาออกจากกระเป๋าเลย ก็เลยหาตลาดขายของมือสองที่เหมือนเคยเห็นในคลิปที่มีคนรีวิวไว้



ตลาดนัด Dongmyo Flea Market จำพิกัดชัด ๆ ไม่ได้แต่ตลาดใหญ่และน่าซื้อมาก จัดเสื้อหนาวแบบใส่แล้วเป็นหมีมา 2 ตัวอุ่นแน่นอน แต่ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปเพราะไม่ไหวจริง ๆ เลยมีแต่รูปที่มีผู้ร่วมทริปชั่วชีวิตมาให้ดูบรรยากาศคร่าว ๆ แค่ 2 รูปซึ่งบอกความใหญ่หรือเยอะของสินค้าได้ไม่หมดหรอกต้องไปกันเอง ลองหาดูแล้วกัน ไม่พร้อมจริง ๆ


หลังจาได้เสื้อใหม่ก็กลับไปเปลี่ยนและเก็บของที่ห้องก่อนเพราะเสื้อมันตัวใหญ่มาก จริง ๆแล้วอยากนอนเลยแหละ หนาวจนเหนื่อยแต่เกาหลีไม่ได้มาทุกเดือนนี่เนอะ เอาว่ะไหน ๆ แล้วเราไปดู กุหลาบ LED กันดีกว่า ที่ DDP (Dondaemun Design Plaza)


DDP (Dondaemun Design Plaza)


ย่านนี้ก็เป็นแหล่งช๊อปอีกที่ ๆ เจอคนไทยเยอะเลย



เดินหาอยู่พักนึงท่ามกลางอากาศที่ลดลงอีกตอนเดินประมาณ -10






ส่วนตัวนะ ถ่ายรูปสวยดี ดูอลังการงานสร้าง  แต่ของจริงมันดูแล้วไม่ค่อยอินเท่าไหร่ ความเห็นส่วนตัวนะ



เดินไป หาที่หลบลมไป หนาวสัส ๆ ทำไมหนาวอย่างงี้ว่ะ ขนาดเปลี่ยนเสื้อใหม่แล้วนะมันยังจะหนาวแข่งอีกเหรอ (เกี่ยวกับรูปไม๊เนี้ย)

          ระหว่างเดินดูดอกไม้ LED อากาศเย็นลงแถมมันเป็นที่โล่ง ๆ ลมพัดมาทีไม่ต้องพูดถึง หูกับจมูก หายไปนานแล้วมือแทบไม่ยอมออกจากกระเป๋า ตอนนี้หน้าเริ่มชาในดทรศัพท์บอก -11 องศาที่รู้สึกเหมือน -18 บ้าไปแล้ว ระหว่างทางเดินกลับไปสถานีรถไฟฟ้าพร้อมบรรยากาศหิมะตกเบา ๆ พอโรแมนติก (แต่โคตรหนาว)  อาจเพราะมันหนาวมากระบบ เมแทบอลิซึม เลยทำงานดีมากจากท้องจุก ๆ เริ่มมีที่ว่างสำหรับใส่ของว่างได้นิดหน่อย เป็นร้านแบบ Street Foods ไม่หลากหลายแบบเมียงดง ส่วนใหญ่ขายเหมือน ๆ กัน


น้ำผลไม้ที่นี่ไม่ใส่น้ำแข็งกินกันแบบสด ๆ ราคาแรงไปหน่อยส่วนใหญ่ 5,000 วอนเรากินอะไรไม่รู้โดนไป 8,000 วอน






จัดไปหลายเมนูเหมือนกัน อย่างละนิด อย่างละหน่อย


          จบด้วย สตอเบอร์รี่สด เห็นคุยกันนักหนาว่าต้องที่เกาหลีอร่อยสุด เอากลับไปกินที่ห้อง แต่จุกกินไม่ไหวเลยเก็บไว้กินพรุ้งนี้ ทำเอาเกือบไม่ได้กินเพราะบางลูกมันแอบช้ำ ๆ สรุปวันนี้เหนื่อยเพราะหนาวนี้แหละ แต่อิ่มสุด ๆ กับปูสด ๆ เป็น ๆ หายอยากกันไปอีกนาน สำหรับพรุ้งนี้เป็นไปตามแผนที่วางไว้เพราะเราจะเปลี่ยนที่พักไปนอนบ้านแบบ ฮานอก บ้านพื้นเมืองแบบเกาหลีที่มีที่นอนแบบ อนดน

ย้อนไปดูวันก่อน