hawker

hawker

วันพุธที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

จากคอนหวันไปวัดท่าซุง

          นครสวรรค์  มักบอกกันว่าเป็นแค่เมืองทางผ่าน ก็อย่างที่เค้าว่ากันขนาดคิด ๆ ว่าตั้งใจแล้วยังใช้เวลาอยู่ได้แค่ครึ่งวันเอง แน่นอนว่าตื่นไม่ได้เช้าหรอกแถวบ้านเรียกสาย เลยต้องหาอะไรเติมพลังกันซะหน่อย จากที่ลองหาจากลุงเกิ้ล และถามคนนั้น คนนี้ กับเวลาสาย ๆ แบบนี้ไปหม่ำก้วยเตี๋ยวกันดีกว่า




ตั้งฐานที่มั่นกันร้านนี้เลยหล่ะกัน


จัดเส้นเล็กน้ำไปหนึ่ง


บะหมี่น้ำเป็น สอง


ของทานเล่น เห็นเค้าเรียกเป็นเนื้อปลากรายลวกจิ้มนะ แต่หน้าตาเหมือนลูกชิ้น


เค้าว่าต้องชิมเมนูนี้ แต่เห็นว่าเย็น ๆ มีร้านอร่อยอยู่อีกที่

          สรุปจัดไปเต็มคราบกับอาหารง่าย ๆ บ้าน ๆ ไม่ต้องแพงรสชาติไม่ขี้เหร่ ร้านหาไม่ยากมากนักอยู่แถวตลาดเส้นเมนท์ถ้ามีที่ว่างก้จอดรถหน้าร้านได้เลย พอออกจากร้านหันซ้ายติด ๆ กันเลยจะเจอร้านไอติมชื่อดังของนครสวรรค์เลย เป็นไอติมแบบแฮนด์เมด


สีสันคัลเลอร์ฟูล ฝุด ๆ


ร้านจัดน่ารักดี เชื่อว่าถ้าโรงเรียนเลิกสงสัยที่นั่งเต็ม




หลังร้านส่วนทางเข้าห้องน้ำ มีที่นั่งเพิ่มเติม มุมถ่ายรูปเพียบ แถมทางร้านมีที่จอดรถบริการด้วยนะ


ยังอิ่มก้วยเตี๋ยวอยู่ สั่งมาพอขำ ๆ แล้วกัน จำรสไม่ได้แล้วแต่เน้นที่ขายดี ๆ ของทางร้านให้เค้าจัดมาให้


ชอบส่วนตัว รูทเบียร์โฟลท ..... แต่เราชอลของ A&W มากกว่า


เดินย่อยอาหารพักนึง แต่สู้แดดไม่ไหว....ร้อน

          เพราะตื่นสาย เคี้ยวอาหารละเอียดเพราะกลัวอ้วนทำให้ใช้เวลาไปเยอะกว่าจะออกจากตัวเมืองก็เกือบเที่ยง จุดหมายต่อไปวัดท่าซุง เห็นว่ามีโบสถ์แก้ว พอจะเป็นทางผ่านได้พอดีลองแวะไปดูดีกว่า


หาวิหารแก้วไม่เจอ เจอนี่ก่อนเลย ปราสาททอง มุมมหาชนเห็นในเน็ตเยอะ


วันที่ไปพอดีเป็นวันจันทร์ คนเลยไม่เยอะ นี่ถ้าเป็นวันเสาร์ อาทิตย์ คงเอาเรื่อง


ภายในปราสาททอง ดูแล้วยังไม่เสร็จดี แต่คงอีกไม่นาน




          ไปตามหา วิหารแก้วกันต่อดีกว่า ตอนเลี้ยวเข้ามาเราก็ว่าเรามาตามป้ายแล้วนะ ไหงยังหาไม่เจอก็ไม่รู้ สุดท้ายใช้ปากให้เป็นประโยชน์ถามเอา แต่จริง ๆ ก็หาไม่ยากหรอกแต่ระหว่างที่อยู่ที่ปราสาททองเนี้ย หลงมาเยอะเชียว


ก่อนไปวิหารแก้วแวะสักการะ พระศรีอาริยเมศไตรย กันก่อน ที่มณฑปพระศรีอาริย์



พานนี้ใช้แทน ธูป เทียน


ตอนแรกเข้าใจผิดคิดว่าที่นี่เป็นวิหารแก้ว แต่ไม่ใช่


วิหารสมเด็จองค์ปฐม 


ถึงซะทีวิหารแก้ว


อลังการ งานสร้างมาก ขอบอก



ด้านหนึ่งเป้นที่ตั้งของพระพุทธรูป ปางแบบเดียวกันกับพระพุทธชินราช


ด้านตรงข้ามกันเป็นที่ตั้งร่างที่ไม่เน่าเปื่อยของ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ



          ณ ที่นี้ไม่สามารถรับใช้ข้อมูลของทางวัดได้จริง ๆ ถ้าอยากทราบกันคิดว่าพอหาอ่านได้จากในเน็ตนี่แหละ พอดีไม่ได้มาสายนี้ซักเท่าไหร่เลยไม่มีความรู้เอาซะเลย รูปถ่ายน้อยไปหน่อยอาจเพราะเป็นวันทำงานพยามรีบกลับกรุงเทพฯ เลยไม่กล้าแวะนาน รีบ ๆ ลน ๆ แต่ทั้งนี้เพราะตั้งใจว่าจะไปกินกุ้งเผาที่ตลาดกลางกุ้งอยุธยา แต่ไม่มีรูปมาโชว์เพราะหิวซะ สรุปเรานี้น่าจะสายกินอย่างแข็งเชียวหล่ะ ไม่รู้ว่าพอจะเรียกมันว่ารีวิวได้ไม๊? แต่ก็จะพยายาม เป็นกำลังใจให้กันหน่อยน้า










วันจันทร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

นครสวรรค์

       

          บทความนี้เป็นการลองทำตามที่รับปากไว้ว่าจะทำให้ละเอียดมากขึ้น อันนี้จะเน้นไปที่ ร.ร. ที่พักที่พอดีเจอมา ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับทาง ร.ร. รีวิวเอาฮาเผื่อจะมีประโยชน์บ้าง
          เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาพอดีมีเหตุให้ต้องไปงานศพคุณแม่ของน้องคนหนึ่งที่กำแพงเพชร ขอแสดงความเสียใจไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะ มีโอกาศได้แวะพักที่นครสวรรค์เพราะกลับมาค่อนข้างดึกแล้วกว่าจะหาที่พักได้เกือบ 5 ทุ่มเชียว ไหน ๆ ก็มาแล้วเลยขอแรดไปที่สี่แยกเดชาติวงศ์ที่เรา ๆ ท่าน ๆ น่าจะได้ยินชื่อนี้บ่อย ๆ ตอนช่วงปีใหม่ กับสงการนต ว่ารถชอบมาติดกันแถวนี้นี่แหละ




          รีวิวช้าไปมาก ตอนนี้งานตรุษจีนเค้าจัดกันไปเรียบร้อยแล้ว เห็นว่าครบรอบ 99 ปีเลยนะ




พึ่งเคยเห็นโคมไฟแบบนี้ใกล้ ๆ ครั้งแรก พึ่งรู้ว่าทำด้วยผ้า




พยามมองอยู่ตั้งนานพอจะกลับแล้วเท่านั้นแหละ ปี ค.ส. นี่เอง

          ที่พักที่ได้อยู่บนเส้นทางที่จะไปบึงบอระเพ็ด ถ้ามาทางสายเอเชียพอเข้านครสวรรค์ก่อนจะขึ้นสะพานเดชาติวงศ์ แยกขวามือเลี้ยวไปทางบึงบอระเพ็ด ขับไปไม่น่าจะเกิน 2 กม.อยู่ขวามือ เป็นโรงแรมใหม่ที่เดียว น่าพักมากกับราคาหลักร้อยเท่านั้นเอง




เป็นแบบบูติค โฮเต็ลเลยนะเนี้ย


เจ้าของน่าจะชอบแมวนะ เห็นตรง ย. ไม๊มีเจ้าเหมียวกระโจนด้วย






ในห้องพักเน้นปูนเปลือย ส่วนตัวแล้วไม่ขี้เหล่นะ หลาย ๆ ที่หลักพันต้น ๆ ยังไม่ดีเท่านี้


Lobby มีลิฟท์ให้บริการด้วยนะ เอ๊ะ...เห็นแมวไม๊?




ส่วนห้องอาหาร







บริการน้ำดื่มแบบน้ำยาอุทัยกัน ไม่ค่อยได้เห็นแล้ว





ราคาหลักร้อยรวมอาหารเช้า พวกขนมปัง ชา กาแฟ ประมาณนั้น แต่มาถึงนครสวรรค์แล้วไปหาของกินอร่อย ๆ ตามที่เค้า ๆ ท่าน ๆ รีวิวกันดีกว่า



ห้ามดูดบุหรี่นะ เดี๋ยวแมวข่วน



อยากดูดมาข้างนอกก้แล้วกัน

          นั่งพักดื่มกาแฟ โอวัลติน แบบขำ ๆ เตรียมออกไปหาอะไรเติมพลังกันในเมืองดีกว่าเนอะ เมื่อคืนก็หาข้อมูลมาพอสมควร แต่คงทานไม่ได้เยอะเพราะวันนี้ระหว่างทางกลับบ้านคิดว่าจะแวะที่วัดท่าซุงซะหน่อย เดี๋ยวไว้ตามมาดูกันอีกนะ เอาพอหอมปากหอมคอก่อนนะ ขอบคุณที่ติดตามกันนะครับ

วันเสาร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ลาแล้วนะ หลวงพระบาง


          เช้าวันสุดท้ายของการเยือนเมืองเลย วันนี้ขอนอนอุตุนิดนึงเลยไม่ได้ไปใส่บาตรเช้า เพราะพอออกมาจากห้องพักแล้วก็กลายเป็นสายไป ระหว่างเดินเที่ยวเล่นเพื่อหาอาหารเช้าประจำวันก็ได้พบกับหมอกสวย ๆ เหนือแม่น้ำโขง บอกเลยว่าของจริงสวยกว่าในภาพเยอะมาก



          วันนี้ตั้งใจว่าจะไปกินเฝ่อร้านดังที่มักแนะนำกัน พอดีผ่านวัดเชียงทองที่มาเมื่อวาน คราวนี้ไม่ต้องซื้อปี้(ตั๋ว)แล้วใช้ใบเดิมเข้าได้เลย ดีแฮะไม่ต้องจ่ายซ้ำซ้อน แต่หมอกเยอะถ่ายรูปอะไรไม่ค่อยได้เท่าไหร่ ไปกินเฝ่อดีกว่า


          เห็นเป็นร้านริมทางแบบนี้ คนเยอะนะ ราคาไม่แพงด้วยแถมเปิดไม่เกิน 11 โมงก็ปิดร้านแล้ว บอกไว้ก่อนเลยว่าอร่อยอีกแล้วครับผม




ขนมไส้มะพร้าวคล้ายขนมเข่ง อร่อย หวาน มัน


หวยครับ หวยเอาให้ดูกันชัด ๆ อดซื้อเหมือนเดิมเพราะจะกลับแล้ว



ถ้าไม่ติดว่าอ่อนแอเรื่องภาษาจะเข้าไปแนะนำที่เที่ยวแล้ว


          เมื่อวานคนเยอะนัก เลยมาชิมเอาวันนี้แทนกับร้านกาแฟประชานิยม กาแฟแบบโบราณบ้านเรารสเข้มข้นดี กินกับปาท่องโก๋จิ้มนม อร่อยดี ชิว ๆ กับอากาศเย็น ๆ ฟินเลย


คงเป็นผู้อาวุโสที่นั้น เห็นนั่งเบียดกันจังเลย แต่น่ารักดีจัง


อิ่มแล้วเดินชมเมืองย่อยอาหารกันอีกรอบ อากาศดีจริง ๆ







เดินมาเจอพวกนั่งกันริมถนนเลยเชียว กำลังระบายสีน้ำไม่ได้อยู่ดูจนเสร็จแฮะ


น่าจะเป็นหนุ่มญี่ปุ่นนะ มากัน 2 คน จัดเต็มเลยนะชุดพี่แก


          ได้เวลากลับกันแล้วครับ ทริปนี้จะแพงก็ค่าตั๋วนี่แหละนอกนั้นก็ไม่เกินกำลังเท่าไหร่ เที่ยวแบบไม่ให้ตัวเองลำบากเกินไป ต้องยอมรับว่าประทับใจในคนลาวจริง ๆ ส่วนใหญ่ที่ได้เจอ ได้คุยด้วย ดูเป็นคนอัธยาศัยดีมาก มักพูดเสมอว่า ไทย-ลาว ก็เหมือนพี่น้องกัน ในทางกลับกันกลับเป็นคนไทยซะอีกเท่าที่ฟังจากสำเนียง น้ำเสียง ของบางกลุ่ม บางพวกที่เจอเหมือน ๆ ว่ามีความดูถูกแฝงอยู่ในน้ำเสียงซะเยอะเชียว (หรือจะคิดไปเองหว่า?) ยังขาดอีกหลายที่ ๆ ยังไม่ได้ไปคงต้องกลับมาอีกคราวนี้จะเก็บตังมานั่งแช่ นอนแช่ มันที่หลวงพระบางที่เดียวเลย


ภายในสนามบินหลวงพระบางเลย มาด้วยสกายแล็บเหมือนเดิม อยู่ไม่ห่างจากตัวเมืองเท่าไหร่


          จบทริปเที่ยวลาวแล้วครับ อยากกลับมาอีก เท่าที่ได้อยู่มาค่าครองชีพเค้าก็ไม่ได้ถูกนะ เห็นแลกเงินเป็นล้าน สุดท้ายต้องมากด ATM ที่นี่อยู่ดีเจอค่าธรรมเนียมไปครั้งละ 100 เฮอะ ๆ คราวหน้าเตรียมมากันให้พร้อม ๆ เลยเงินไทยก็ใช้ได้ เอาไว้บล็อคหน้านะจะเขียนให้ดีกว่านี้ ข้อมูลจะให้ละเอียดกว่านี้เยอะ ๆ ถือซะว่าเป็นครั้งแรกก็แล้วกันเนอะ พบกันเมื่อชาติต้องการ ขอบคุณที่ทนอ่านกันมาจนจบนะครับ

ขอบคุณครับ